top of page
194048_v9_ba.jpg

โวล์ฟกัง อมาเดอุส โมสาร์ท  นักดนตรีซิมโฟเน่ระดับโลก เกิดที่ ซาลสเบร์ก ออสเตรียในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.1756  และเสียชีวิตที่ กรุงเวียนนา ออสเตรีย 5 ธันวาคม ค.ศ. 1791

โมสาร์ท มีอัจฉริยภาพทางดนตรีมาตั้งแต่เกิด ในตอนเด็กได้ไปยืนเกาะฮาร์พซิคอร์ด ดูพ่อกำลังสอน Nannerl พี่สาวของเขาเล่นคลาเวียร์อยู่ ด้วยความตั้งอกตั้งใจ เมื่อโมสาร์ทอายุได้ 4 ขวบ พ่อก็เริ่มฝึกให้เขาเรียนดนตรีอย่างจริงจัง และเขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว หูของเขาสามารถฟังเสียงดนตรีได้อย่างแม่นยำ และบอกเสียงต่าง ๆ ได้ถูกต้อง  เมื่อพ่อเห็นถึงพรสวรรค์ จึงทุ่มเทตั้งใจฝึกสอนอย่างเต็มที่ และวางรากฐานทางดนตรีตลอดจนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ถูกต้องให้แก่ลูกชายของเขา
โวล์ฟกัง อมาเตอุส โมสาร์ท เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.1759 (พ.ศ.2295) ที่เมืองซาลสเบอร์ก ออสเตรีย เป็นลูกชายของ เลโอโปลด์ โมสาร์ท นักดนตรีผู้มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นนักแต่งเพลงและครูสอนดนตรี ซึ่งสามารถเล่นไวโอลินได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหัวหน้าวงดนตรีประจำสำนักของอาร์ชบิชอพ ที่ซาลสเบอร์ก แม่ชื่อ เฟรา อันนา โมสาร์ท เป็นแม่บ้านที่ โมสาร์ท  มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เสียชีวิตไป 5 คน เหลือแต่ มาเรีย แอนนา หรือ Nannerl พี่สาวที่มีอายุมากกว่าเขา 4 ปี รวมตัวเขา เพียง 2 คนเท่านั้น ในวัยเด็กโมสาร์ทเป็นคนที่มีรูปร่างสง่า ใบหน้าสวย ริมฝีปากสวยงาม จมูกโด่ง แววตาอ่อนโยนเหมือนผู้หญิง กิริยามารยาทสงบเสงี่ยมละมุนละมนและช่างคิดช่างฝัน
เมื่ออายุ 5ขวบ โมสาร์ทได้แต่งเพลง โดยการแต่งเติมเพลง minuet ของพ่อที่ได้แต่งค้างไว้ยังไม่เสร็จ  ซึ่งไพเราะยิ่งนัก  เมื่ออายุ 6 ปี  เขาได้รับของขวัญวันเกิดเป็นไวโอลินเล็กๆ อันหนึ่ง โมสาร์ทก็ได้พยายามฝึกฝนด้วยตนเอง เพราะพ่อไม่ยอมสอน  หลังจากโมสาร์ทได้แสดงฝีมือการเล่นไวโอลีนร่วมวงกับพ่อได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พ่อของเขาทำการฝึกซ้อมไวโอลินให้เขากับ Nannerl อย่างจริงจัง และแน่วแน่เพื่อปั้นลูกชายให้เป็นนักไวโอลินของโลกให้ได้
เมื่อโมสาร์ทอายุได้ 6 ขวบ ได้เข้าเฝ้า พระนางมาเรีย เทเรซา ที่กรุงเวียนนา และด้วยอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีทำให้เขาได้รับสมญานาม จากจักรพรรดิ์ฟรังซิส ว่า “ผู้วิเศษน้อย”  ทำให้เขามีชื่อเสียงมากในยุโรป เมื่อ 7 ขวบ เขาแต่งเพลงไวโอลินโซนาตาเป็นเพลงแรก  และเมื่ออายุ 8 ขวบ ก็แต่งซิมโฟนีได้สำเร็จ โมสาร์ทได้เดินทางไปแสดงดนตรีที่อิตาลี และตกหลุมรัก หลงใหลคลั่งไคล้อิตาลีมาก  ถึงขั้นเปลี่ยนชื่อกลาง
ให้เหมือนชาวอิตาเลียน  โดยจากเดิมชื่อ Gottlieb แปลว่า ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า มาเป็น Amadeus โดยมีคำแปลว่าผู้เป็นที่รักของพระเจ้าเช่นเหมือนเดิม
โมสาร์ท แต่งงานกับ คอนสตันซ์ เวเบอร์ น้องสาวของอลอยเซีย เวเบอร์  ที่เขาเคยตกหลุมรักมาก่อน  และได้เขียน อุปรากรขึ้นชื่อ The Escape from Seraglio  โดยเอาชื่อเมียมาเป็นนางเอก   จักรพรรดิ์โจเซป ชอบอุปรากรของโมสาร์ทมาก  จึงได้เขามาอยู่ในวงดนตรีของพระองค์    แต่ให้ค่าตอบแทนที่น้อยมาก

งานด้านแต่งเพลงของโมสาร์ทเริ่มโดดเด่นขึ้น  หลังได้พบกับไฮเดิน นักคนตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเวียนนาและได้และสอนเขาเขียนเพลง ควอเตท  และโมสาร์ท ได้แต่งเพลง String quartets หลายเพลง และไพเราะมาก ซึ่งไฮเดิน ก็ชื่นชมโมสาร์ทมากเช่นกัน
โมสาร์ทแต่งงานมา 9 ปี โมสาร์ท มีความสุขบ้างพอควร มีลูกกับคอนสตันซ์ เวเบอร์  รวมทั้งหมด 6 คน และได้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก  เพราะภรรยาใช้เงินเก่ง ไม่ค่อยใส่ใจการบ้านการเรือน  มีรายได้ไม่พอรายจ่ายทำให้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย  ทำให้โมสาร์ทต้องทำงานหนัก

โมสาร์ทมีผลงานมากกว่า 200 ชิ้น ถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการแต่งเพลงชั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียวผู้
โมสาร์ทได้แต่งเพลง Requiem (เพลงเกี่ยวกับงานศพ) ให้แก่เคาน์ท์ลัวเซกก์ สำหรับเป็นที่ระลึกให้แก่ภรรยาที่ตายไปแล้ว และในเวลาต่อมาโมสาร์ทก็เสียชีวิต ด้วยโรคไทฟลอย์ ที่เวียนนา ในวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ.1791 ซึ่งเพลงที่เขาแต่งได้นำมาใช้ในงานศพของเขาเอง ด้วยวัยเพียง 35ปีเท่านั้น

HL50485603.jpeg
Horn1First_BIG.gif

โวล์ฟกัง อมาเดอุส โมสาร์ท  นักดนตรีซิมโฟเน่ระดับโลก เกิดที่ ซาลสเบร์ก ออสเตรียในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.1756  และเสียชีวิตที่ กรุงเวียนนา ออสเตรีย 5 ธันวาคม ค.ศ. 1791

โมสาร์ท มีอัจฉริยภาพทางดนตรีมาตั้งแต่เกิด ในตอนเด็กได้ไปยืนเกาะฮาร์พซิคอร์ด ดูพ่อกำลังสอน Nannerl พี่สาวของเขาเล่นคลาเวียร์อยู่ ด้วยความตั้งอกตั้งใจ เมื่อโมสาร์ทอายุได้ 4 ขวบ พ่อก็เริ่มฝึกให้เขาเรียนดนตรีอย่างจริงจัง และเขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว หูของเขาสามารถฟังเสียงดนตรีได้อย่างแม่นยำ และบอกเสียงต่าง ๆ ได้ถูกต้อง  เมื่อพ่อเห็นถึงพรสวรรค์ จึงทุ่มเทตั้งใจฝึกสอนอย่างเต็มที่ และวางรากฐานทางดนตรีตลอดจนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ถูกต้องให้แก่ลูกชายของเขา
โวล์ฟกัง อมาเตอุส โมสาร์ท เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.1759 (พ.ศ.2295) ที่เมืองซาลสเบอร์ก ออสเตรีย เป็นลูกชายของ เลโอโปลด์ โมสาร์ท นักดนตรีผู้มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นนักแต่งเพลงและครูสอนดนตรี ซึ่งสามารถเล่นไวโอลินได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหัวหน้าวงดนตรีประจำสำนักของอาร์ชบิชอพ ที่ซาลสเบอร์ก แม่ชื่อ เฟรา อันนา โมสาร์ท เป็นแม่บ้านที่ โมสาร์ท  มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เสียชีวิตไป 5 คน เหลือแต่ มาเรีย แอนนา หรือ Nannerl พี่สาวที่มีอายุมากกว่าเขา 4 ปี รวมตัวเขา เพียง 2 คนเท่านั้น ในวัยเด็กโมสาร์ทเป็นคนที่มีรูปร่างสง่า ใบหน้าสวย ริมฝีปากสวยงาม จมูกโด่ง แววตาอ่อนโยนเหมือนผู้หญิง กิริยามารยาทสงบเสงี่ยมละมุนละมนและช่างคิดช่างฝัน
เมื่ออายุ 5ขวบ โมสาร์ทได้แต่งเพลง โดยการแต่งเติมเพลง minuet ของพ่อที่ได้แต่งค้างไว้ยังไม่เสร็จ  ซึ่งไพเราะยิ่งนัก  เมื่ออายุ 6 ปี  เขาได้รับของขวัญวันเกิดเป็นไวโอลินเล็กๆ อันหนึ่ง โมสาร์ทก็ได้พยายามฝึกฝนด้วยตนเอง เพราะพ่อไม่ยอมสอน  หลังจากโมสาร์ทได้แสดงฝีมือการเล่นไวโอลีนร่วมวงกับพ่อได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พ่อของเขาทำการฝึกซ้อมไวโอลินให้เขากับ Nannerl อย่างจริงจัง และแน่วแน่เพื่อปั้นลูกชายให้เป็นนักไวโอลินของโลกให้ได้
เมื่อโมสาร์ทอายุได้ 6 ขวบ ได้เข้าเฝ้า พระนางมาเรีย เทเรซา ที่กรุงเวียนนา และด้วยอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีทำให้เขาได้รับสมญานาม จากจักรพรรดิ์ฟรังซิส ว่า “ผู้วิเศษน้อย”  ทำให้เขามีชื่อเสียงมากในยุโรป เมื่อ 7 ขวบ เขาแต่งเพลงไวโอลินโซนาตาเป็นเพลงแรก  และเมื่ออายุ 8 ขวบ ก็แต่งซิมโฟนีได้สำเร็จ โมสาร์ทได้เดินทางไปแสดงดนตรีที่อิตาลี และตกหลุมรัก หลงใหลคลั่งไคล้อิตาลีมาก  ถึงขั้นเปลี่ยนชื่อกลาง
ให้เหมือนชาวอิตาเลียน  โดยจากเดิมชื่อ Gottlieb แปลว่า ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า มาเป็น Amadeus โดยมีคำแปลว่าผู้เป็นที่รักของพระเจ้าเช่นเหมือนเดิม
โมสาร์ท แต่งงานกับ คอนสตันซ์ เวเบอร์ น้องสาวของอลอยเซีย เวเบอร์  ที่เขาเคยตกหลุมรักมาก่อน  และได้เขียน อุปรากรขึ้นชื่อ The Escape from Seraglio  โดยเอาชื่อเมียมาเป็นนางเอก   จักรพรรดิ์โจเซป ชอบอุปรากรของโมสาร์ทมาก  จึงได้เขามาอยู่ในวงดนตรีของพระองค์    แต่ให้ค่าตอบแทนที่น้อยมาก

งานด้านแต่งเพลงของโมสาร์ทเริ่มโดดเด่นขึ้น  หลังได้พบกับไฮเดิน นักคนตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเวียนนาและได้และสอนเขาเขียนเพลง ควอเตท  และโมสาร์ท ได้แต่งเพลง String quartets หลายเพลง และไพเราะมาก ซึ่งไฮเดิน ก็ชื่นชมโมสาร์ทมากเช่นกัน
โมสาร์ทแต่งงานมา 9 ปี โมสาร์ท มีความสุขบ้างพอควร มีลูกกับคอนสตันซ์ เวเบอร์  รวมทั้งหมด 6 คน และได้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก  เพราะภรรยาใช้เงินเก่ง ไม่ค่อยใส่ใจการบ้านการเรือน  มีรายได้ไม่พอรายจ่ายทำให้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย  ทำให้โมสาร์ทต้องทำงานหนัก

โมสาร์ทมีผลงานมากกว่า 200 ชิ้น ถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการแต่งเพลงชั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียวผู้
โมสาร์ทได้แต่งเพลง Requiem (เพลงเกี่ยวกับงานศพ) ให้แก่เคาน์ท์ลัวเซกก์ สำหรับเป็นที่ระลึกให้แก่ภรรยาที่ตายไปแล้ว และในเวลาต่อมาโมสาร์ทก็เสียชีวิต ด้วยโรคไทฟลอย์ ที่เวียนนา ในวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ.1791 ซึ่งเพลงที่เขาแต่งได้นำมาใช้ในงานศพของเขาเอง ด้วยวัยเพียง 35ปีเท่านั้น

bottom of page